AGM-158 JASSM (Joint Air-to-Surface Standoff Missile) คือ อาวุธนำวิถีที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Lockheed Martin สำหรับกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา โดยมีจุดประสงค์เพื่อโจมตีเป้าหมายที่มีความสำคัญโดยไม่ต้องเข้าใกล้พื้นที่ที่มีการป้องกันอย่างเข้มงวด อาวุธนี้มีความแม่นยำสูงและสามารถทำงานในสภาพอากาศที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
The AGM-158 JASSM (Joint Air-to-Surface Standoff Missile) is a precision-guided missile developed by Lockheed Martin for the United States Air Force. Its purpose is to strike high-value targets without needing to penetrate heavily defended areas. This weapon boasts high accuracy and can operate effectively in a variety of weather conditions.
AGM-158 JASSM ได้รับการพัฒนาในช่วงปลายทศวรรษ 1990 และเริ่มมีการทดสอบในปี 2001 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทดแทน AGM-86 ALCM ที่มีอยู่ในขณะนั้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการโจมตีที่แม่นยำและลดความเสี่ยงในการถูกโจมตีจากการป้องกันทางอากาศของศัตรู
AGM-158 JASSM ประกอบด้วยระบบนำทางที่ทันสมัย ซึ่งรวมถึง GPS, ระบบเซนเซอร์ที่สามารถตรวจจับเป้าหมาย และเครื่องยนต์ที่ช่วยให้สามารถบินได้ในระยะไกล โดยมีระยะยิงประมาณ 250 ไมล์ (ประมาณ 400 กิโลเมตร)
JASSM สามารถโจมตีเป้าหมายที่มีความสำคัญสูง เช่น ฐานทัพหรือระบบป้องกันทางอากาศ โดยสามารถปล่อยจากเครื่องบินขับไล่และเครื่องบินทิ้งระเบิด ทำให้มันเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการทำสงครามสมัยใหม่
AGM-158 JASSM ได้รับการนำมาใช้ในหลายสงคราม รวมถึงสงครามในอิรักและสงครามในอัฟกานิสถาน โดยแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำลายเป้าหมายที่มีการป้องกันอย่างเข้มงวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในปัจจุบัน AGM-158 JASSM มีการพัฒนาเวอร์ชันใหม่ที่เรียกว่า JASSM-ER ซึ่งมีระยะยิงที่ไกลขึ้นและความสามารถในการโจมตีเป้าหมายที่ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งแสดงถึงการมุ่งเน้นในการพัฒนาเทคโนโลยีอาวุธที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
AGM-158 JASSM ต้องเผชิญกับการแข่งขันจากอาวุธนำวิถีอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาด เช่น Taurus KEPD 350 และ Storm Shadow โดยมีการพัฒนาขีดความสามารถใหม่ๆ เพื่อรักษาความได้เปรียบในสงคราม
AGM-158 JASSM ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีความปลอดภัยสูง โดยมีระบบการควบคุมที่ช่วยป้องกันการโจมตีที่ไม่ตั้งใจและสามารถทำงานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีการต่อต้านทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกามีการฝึกอบรมที่เข้มงวดสำหรับนักบินและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการใช้งาน AGM-158 JASSM เพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
การมีอยู่ของ AGM-158 JASSM ในกองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์การทำสงคราม เนื่องจากช่วยให้สามารถโจมตีเป้าหมายที่มีความสำคัญสูงได้โดยไม่ต้องเสี่ยงต่อการสูญเสียเครื่องบินที่มีค่า
URL หน้านี้ คือ > https://ekaew.com/1725462267-Military technology-Thai-tech.html
Storm Shadow เป็นขีปนาวุธที่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท MBDA ซึ่งออกแบบมาเพื่อโจมตีเป้าหมายที่มีความสำคัญสูงจากระยะไกล ขีปนาวุธนี้มีระยะการยิงที่น่าประทับใจ โดยสามารถยิงได้ไกลถึง 250 กม. หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์การใช้งานและประเภทของเป้าหมายที่ถูกโจมตี
Storm Shadow is a missile developed by MBDA designed to strike high-value targets from a long distance. This missile has an impressive range, capable of being fired up to 250 km or more depending on the operational circumstances and the type of target being attacked.
Storm Shadow เป็นขีปนาวุธที่มีความแม่นยำสูงซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีเป้าหมายที่มีความสำคัญในสถานการณ์การทหาร ขีปนาวุธนี้มีการพัฒนาขึ้นโดยบริษัท MBDA และมีประวัติการใช้งานที่ยาวนานในหลายกองทัพทั่วโลก ความแม่นยำของ Storm Shadow อยู่ในระดับที่สูงมาก โดยมีการระบุว่ามันสามารถเข้าใกล้เป้าหมายได้ภายในระยะไม่ถึง 10 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานที่น่าทึ่งสำหรับขีปนาวุธที่ใช้ในสงครามสมัยใหม่
Storm Shadow is a high-precision missile designed to target critical objectives in military scenarios. This missile was developed by MBDA and has a long history of use in various armies worldwide. The accuracy of Storm Shadow is notably high, with reports suggesting it can strike within 10 meters of its intended target, a remarkable standard for missiles used in modern warfare.
ต้นทุนการผลิตของ Storm Shadow มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา รวมถึงการวิจัยและพัฒนา การผลิตชิ้นส่วนต่างๆ การทดสอบ และการจัดส่ง มิสไซล์นี้พัฒนาโดยบริษัท MBDA ของสหราชอาณาจักรและมีการใช้งานในหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปฏิบัติการทางทหารที่ต้องการความแม่นยำสูง
The production cost of the Storm Shadow missile involves numerous factors, including research and development, manufacturing of various components, testing, and delivery. This missile was developed by MBDA in the United Kingdom and is used by several countries, particularly in military operations that require high precision.
ขีปนาวุธ Storm Shadow ถือเป็นหนึ่งในขีปนาวุธที่มีความสามารถสูงในการโจมตีเป้าหมายที่มีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ ขีปนาวุธนี้ถูกพัฒนาโดยบริษัท MBDA ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส การพัฒนาขีปนาวุธนี้เริ่มต้นในปี 1980 และมีการนำไปใช้งานจริงในหลายเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ยุคใหม่
The Storm Shadow missile is considered one of the most advanced missiles capable of striking strategically important targets. This missile was developed by MBDA, a collaboration between the United Kingdom and France. The development of this missile began in the 1980s and has been used in several significant historical events in the modern era.
AGM-158 JASSM (Joint Air-to-Surface Standoff Missile) คือ อาวุธนำวิถีที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Lockheed Martin สำหรับกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา โดยมีจุดประสงค์เพื่อโจมตีเป้าหมายที่มีความสำคัญโดยไม่ต้องเข้าใกล้พื้นที่ที่มีการป้องกันอย่างเข้มงวด อาวุธนี้มีความแม่นยำสูงและสามารถทำงานในสภาพอากาศที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
The AGM-158 JASSM (Joint Air-to-Surface Standoff Missile) is a precision-guided missile developed by Lockheed Martin for the United States Air Force. Its purpose is to strike high-value targets without needing to penetrate heavily defended areas. This weapon boasts high accuracy and can operate effectively in a variety of weather conditions.
JASSM (Joint Air-to-Surface Standoff Missile) เป็นขีปนาวุธที่พัฒนาขึ้นโดย Lockheed Martin เพื่อใช้ในการโจมตีเป้าหมายที่อยู่ห่างไกลจากฐานที่ตั้งของเครื่องบินขับไล่ ขีปนาวุธนี้มีความสามารถในการหลบหลีกการตรวจจับและการป้องกัน ทำให้มีความโดดเด่นในสนามรบ ข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่าง JASSM และขีปนาวุธร่อนอื่นๆ คือเทคโนโลยีการนำทางและการโจมตีเป้าหมาย รวมถึงระยะการยิงที่ไกลกว่า
JASSM (Joint Air-to-Surface Standoff Missile) is a missile developed by Lockheed Martin for striking targets at a distance from the aircraft's base. This missile has the ability to evade detection and defense systems, making it stand out in combat. The key differences between JASSM and other cruise missiles include its navigation technology, target engagement capabilities, and longer firing range.
AGM-158 JASSM (Joint Air-to-Surface Standoff Missile) เป็นอาวุธที่ถูกพัฒนาโดยบริษัทล็อคฮีด มาร์ติน ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อการโจมตีระยะไกลต่อเป้าหมายที่มีความสำคัญในยุทธศาสตร์การทหารของประเทศต่างๆ อาวุธนี้ถูกใช้งานโดยหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, ฟินแลนด์, ฮังการี, นอร์เวย์, และโปแลนด์ โดยประเทศเหล่านี้มีความต้องการในการเสริมสร้างความสามารถในการโจมตีระยะไกล และการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามต่างๆ
The AGM-158 JASSM (Joint Air-to-Surface Standoff Missile) is a weapon developed by Lockheed Martin, designed for long-range attacks on strategically important targets in the military strategies of various countries. This weapon is used by several countries, including the United States, Australia, Finland, Hungary, Norway, and Poland. These countries have a need to enhance their long-range strike capabilities and protect themselves from various threats.
AGM-158 Joint Air-to-Surface Standoff Missile (JASSM) เป็นขีปนาวุธที่พัฒนาโดยบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน ซึ่งเริ่มมีการพัฒนาในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้กองทัพอากาศสหรัฐสามารถโจมตีเป้าหมายที่อยู่ห่างไกลอย่างมีประสิทธิภาพ ขีปนาวุธนี้มีระบบนำทางที่ซับซ้อน รวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ช่วยให้สามารถทำการโจมตีได้แม่นยำสูง แม้ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและมีการต่อต้าน
The AGM-158 Joint Air-to-Surface Standoff Missile (JASSM) is a missile developed by Lockheed Martin that began development in the early 1990s with the aim of allowing the U.S. Air Force to effectively strike distant targets. This missile features an advanced navigation system, including modern technologies that enable precise strikes even in complex environments with countermeasures.